เพลงผีมดกินน้ำมะพร้าว

พ.ศ. 2101 อาณาจักรล้านนาในรูปแบบนครรัฐอิสระถูกพระเจ้าบุเรงนองแห่งอาณาจักรตองอูทำสงครามและได้ล้านนาเป็นเมืองประเทศราช ในรัชสมัยของพระเจ้ามังนรธาช่อ พระโอรสพระเจ้าบุเรงนองที่ได้รับการแต่งตั้งให้ครองล้านนาช่วง พ.ศ. 2121-2150 ปรากฏว่า ราล์ฟ ฟิตช์ (Ralph Fitch) (มีชีวิตอยู่ระหว่าง พ.ศ. 2093-2154) เป็นชาวอังกฤษ และเป็นชาวตะวันตกคนแรกที่เดินทางมาถึงเชียงใหม่ หลังจากเดินทางสำรวจทั่วอินเดียและทะลุมาจนถึงเมืองพะโคในเขตประเทศพม่าปัจจุบันและจึงเดินทางต่อมาถึงเชียงใหม่

เขาอยู่ที่เชียงใหม่ในระหว่างเดือนธันวาคม พ.ศ. 2129 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2130 เป็นเวลา 25 วัน (Ryley, J. Horton, 1899, p. 171) ขณะนั้นเป็นช่วงที่เชียงใหม่ถูกปกครองโดยเจ้าผู้ครองนครชาวพม่า เขาได้อธิบายถึงผู้คน สภาพบ้านเรือน การค้าขาย ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณีของคนเชียงใหม่ในสมัยนั้นไว้อย่างน่าสนใจ เช่น

“…ในอาณาจักรนี้ เมื่อชาวบ้านป่วยไข้ พวกเขาจะทำการบนบานด้วยเนื้อสดบนหม้อ หากพวกเขาหายป่วย พวกเขาจะจัดงานเลี้ยงโดยมีปี่หลาย ๆ เลา กลองหลายใบและเครื่องดนตรีอื่น ๆ ตลอดจนฟ้อนรำทั้งคืน และเพื่อนของพวกเขาก็จะนำของขวัญมามอบให้ได้แก่มะพร้าว มะเดื่อ หมากพลูและผลไม้อื่น ๆ และร่วมการฟ้อนรำเพื่อให้วิญญาณผีได้ชมและเชิญมากินของเหล่านี้และไล่เขาออกไป ในขณะที่พวกเขาฟ้อนรำและมีการละเล่นอยู่นั้น พวกเขาจะร้องไห้และมีการบูชาที่เสียงดังเพื่อขับไล่ผีให้ออกไป…” (Ryley, J. Horton, 1899, p. 171 แปลโดย สงกรานต์ สมจันทร์)

บันทึกจากชาวอังกฤษดังกล่าวแม้จะมีข้อจำกัดในความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมล้านนามากนัก แต่ก็เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นจารีตประเพณีการฟ้อนผีบรรพบุรุษของชาวเชียงใหม่เมื่อกว่า 400 ปีก่อน และจะเห็นได้ว่า ผลไม้อย่างมะพร้าว ก็ยังคงใช้ในพิธีกรรมจนถึงปัจจุบัน ดังวีดิทัศน์ที่ทุกท่านเห็นอยู่นี้เป็นช่วงพิธีฟ้อนผีเม็งกินถ้วย คือการนำถ้วยผีบนหิ้งที่เชิญขึ้นไว้ตอนเช้ามาฟ้อนเป็นรอบ ๆ ต้นดอกแก้ว จากนั้นจึงนำอาหารทิ้งลงบริเวณใต้ต้นดอกแก้ว หลังจากนั้นจึงดื่มน้ำมะพร้าว ก่อนดื่มต้องเทน้ำมะพร้าวลงต้นดอกแก้วเล็กน้อย จึงเกิดเพลงที่เรียกว่า “ผีมดกินน้ำมะพร้าว”

เพลงผีมดกินน้ำมะพร้าว เป็นเพลงพื้นเมืองโบราณที่ใช้ในพิธีกรรมฟ้อนผีบรรพบุรุษของชาวล้านนา ในแต่ละท้องถิ่นอาจมีการเรียกชื่อเพลงแตกต่างกันออกไป เช่น พื้นที่วัฒนธรรมดนตรีล้านนาเชียงราย เรียกว่า เพลงขมุกินน้ำมะพร้าว บางพื้นที่เรียกชื่อเพลงนี้ว่า ลาวน้ำป๊าว ซึ่งสะท้อนว่า เป็นเพลงในพื้นที่วัฒนธรรมดนตรีล้านนาเชียงใหม่มาก่อน ดังที่ชาวไทลื้อและชาวไทยองเรียกคนที่พูดสำเนียงแบบเชียงใหม่ว่า “ลาว”

นิยมบรรเลงในพิธีฟ้อนผีมดและผีเม็งเมืองเชียงใหม่ เป็นเพลงที่มีหน้าทับเฉพาะ จากชื่อเพลงแสดงให้เห็นว่าเป็นเพลงที่ถูกใช้ในขั้นตอนที่ผีหรือร่างทรงกินน้ำมะพร้าวซึ่งถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ ปัจจุบันใช้บรรเลงในพิธีฟ้อนถ้วยและพิธีเลี้ยงข้าวผีปู่ย่า หากในพิธีกรรมยังมีเวลาเหลือก็จะบรรเลงในขั้นตอนการฟ้อนปล่อย กล่าวคือเป็นการบรรเลงในช่วงเวลาว่างของพิธีกรรมและปล่อยให้ร่างทรงได้ฟ้อนรำ

เพลงผีมดกินน้ำมะพร้าวปัจจุบันปรากฏ 2 สำนวน สำนวนแรกเป็นสำนวนขนาดสั้น ใช้บรรเลงในวงดนตรีพื้นเมือง (วงสะล้อ ซอ ซึง) และใช้บรรเลงในวงป้าดก๊องดังปรากฏในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มีจำนวน 3 ท่อน

นอกจากนี้ยังเป็นสำนวนเพลงที่ถูกแทรกในฟ้อนม่านแม่เล้ ซึ่งเป็นการแสดงที่สร้างสรรค์ขึ้นในช่วงสมัยพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ที่ปรับปรุงมาจากการแสดงชุดม่านมุยเซียงตา สำนวนขนาดสั้นนี้ยังปรากฏในวงปี่พาทย์มอญในพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย โดยเรียกชื่อตามวัฒนธรรมต้นทางว่า “เพลงผีมด” จากการที่ครูดนตรีไทยหลายท่านได้เดินทางมาช่วยงานครูรอด อักษรทับ ครูดนตรีในวังของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี และในคุ้มเจ้าหลวงเชียงใหม่

หลังจากนั้นได้นำไปเผยแพร่ในภาคกลาง เช่น ครูฉัตรและครูช่อ สุนทรวาทิน ครูสงัด ยมะคุปต์ ครูถีร์ ปี่เพราะ ดังบันทึกของครูสุข ดุริยะประณีต ที่กล่าวว่า นายถีร์ ปี่เพราะ ได้นำเพลงพื้นเมืองของจังหวัดเชียงใหม่มาต่อให้กับคณะของตนเองเมื่อ พ.ศ. 2482 ที่ชี้ให้เห็นถึงการแพร่กระจายจากภาคเหนือไปยังภาคกลางดังกล่าว

สำหรับสำเนียงที่ 2 มีความซับซ้อนและมีการผูกท่อนเพลงอย่างลึกซึ้ง ตัวเพลงมีจำนวน 4 ท่อน หลังจากนั้นจึงออกเพลงสำเนียงที่ใช้เสียง 6 เสียง ต่อไป เช่นเพลงนาคราช เพลงนาคบริพัตร เป็นต้น ดังแบบแผนการบรรเลงสำเนียงดังกล่าวของวงป้าดก๊องคณะเชียงยืน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวงป้าดก๊องเก่าแก่และยังคงรักษาเพลงพื้นเมืองโบราณไว้หลายเพลง กำกับจังหวะด้วยหน้าทับเฉพาะเพลง

ที่มา:
สงกรานต์ สมจันทร์. (2557).ระบบเสียงและเพลงแห่ของวงพาทย์ค้องในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาดนตรี, มหาวิทยาลัยมหิดล.

สงกรานต์ สมจันทร์. (2565). สารานุกรมเพลงดนตรีล้านนา. เชียงใหม่: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.

สุทธิพงค์ พัฒนวิบูลย์ และสุนทร คำยอด. (2554). ยลอดีตบ้านช้างม่อย ย้อนรอยฟ้อนผีเม็ง: การศึกษาฟ้อนผีเม็งในอำเภอเมืองเชียงใหม่. ข่วงผญา. เชียงใหม่: สถาบันภาษา ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.

Ryley, J. H. (1899). Ralph Fitch England’s pioneer to India and Burma; his companions and contemporaries, with his remarkable narrative told in his own words. London: T.F. Unwin.

ผู้จัดทำข้อมูล

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สงกรานต์ สมจันทร์

หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาดนตรีศึกษา
ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านดนตรีและนาฏศิลป์ล้านนา
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *